Loading...
การบริการข้อมูล เทศบาลตำบลชมภู

27/11/2023 :: ( 74 ผู้เข้าชม )

เทศบาลตำบลชมภู

Link----> http://www.chompoo.go.th/index.php

1.ข้อมูลด้านกายภาพ

1.1 ที่ตั้งของหมู่บ้าน/ชุมชน/ตำบล

          เทศบาลตำบลชมภู ตั้งอยู่เลขที่ 999 หมู่ 8 ตำบลชมภู อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัด ห่างจากตัวอำเภอสารภี ประมาณ 4 กิโลเมตร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 15 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการเดินทางจากตำบลชมภู ถึงศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่

ข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้านหรือชุมชน

หมู่ที่ 1 บ้านหนองป่าแสะ

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน

          บ้านหนองป่าแสะ หมู่ที่ 1 เดิมชื่อว่า บ้านสีลายเรือง ตามคำบอกเล่าว่าเป็นชื่อของผู้ที่อพยพมาตั้งครอบครัว ในครั้งแรกชื่อ สีลาย ลูกนายเรือง จึงตั้งชื่อว่า บ้านสีลาเรือง มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 202 ไร่ 4 งาน มีลักษณะเป็นวงรี ประกอบกับบริเวณนี้มีหนองน้ำ และได้มีชายผู้หนึ่งไม่ทราบชื่อได้เอาต้นแสะ (ต้นแสะหรือต้นสาลา ภาคใต้เรียกต้นแสะ มีลักษณะคล้ายต้นไกรแต่ต้นเล็กกว่า เป็นไม้ยืนต้นดอกคล้ายดอกลำโพง ลูกแสะนกชอบกินแต่คนกินไม่ได้) มาปลูกบริเวณหนองน้ำ และต่อมาจึงแพร่กระจายไปทั่ว จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า หนองป่าแสะ และเมื่อคนมาอาศัยอยู่มาก จึงสร้างวัดชื่อวัดหนองป่าแสะ และยังพบต้นแสะอยู่บริเวณทางทิศตะวันตกของวัด แต่ได้มีการถมหนองถมหนองน้ำและต้นแสะที่มีอยู่จำนวนมากขั้นลง เพื่อสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย

ข้อมูลทั่วไป

อาณาเขตติดต่อ

ทิศเหนือ          ติดต่อกับ   หมู่บ้านต้นโชคหลวง    หมู่ที่ 1  ตำบลไชยสถาน  อำเภอสารภี

                                       หมู่บ้านไชยสถาน      หมู่ที่ 1  ตำบลป่าบง      อำเภอสารภี

ทิศใต้              ติดต่อกับ   หมู่บ้านพญาชมภู       หมู่ที่ 2  ตำบลชมภู       อำเภอสารภี

ทิศตะวันออก   ติดต่อกับ   หมู่บ้านป่ากล้วย        หมู่ที่ 3  ตำบลชมภู       อำเภอสารภี

ทิศตะวันตก     ติดต่อกับ   ถนนซุปเปอร์ - ไฮเวย์  เชียงใหม่ – ลำปาง        อำเภอสารภี
ที่ตั้งหมู่บ้าน

-  อยู่ห่างจากเทศบาลตำบลชมภู ประมาณ 1 กิโลเมตร 500 เมตร

-  อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 3 กิโลเมตร

-  พื้นที่ทั้งหมดของหมู่บ้านประมาณ 500 ไร่ พื้นที่ทางการเกษตร 250 ไร่

ข้อมูลประชากร

-  จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 373 ครัวเรือน

-  จำนวนประชากรแยก เป็นชาย จำนวน 336 คน หญิง จำนวน 350 คน รวม 686 คน

หมู่ที่ 2 บ้านพญาชมภู

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน

          ตามประวัติเล่าสืบต่อกันมา วัดพญาชมภูเป็นวัดร้าง ชื่อวัดป่าแดงนางเหลียว ประมาณ 260 ปีผ่านมาได้มี          พ่อพญาชมภู ซึ่งเป็นอพยพจากสิบสองปันนา ซึ่งตามประวัติตอนนั้นเมืองจีนมีการแบ่งการปกครองเป็นก๊ก สมันนั้น        พ่อพญาชมภูและพญาผาบได้มีการสู้รบกันโดยติดตามกันมาตามแนวชายแดนเมืองเชียงราย ลำปาง ลำพูนถึงเชียงใหม่          พ่อพญาชมภูได้หยุดพักอยู่บริเวณแจ่งขะต้ำอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งได้ออกเดินทางจนมาพบหมู่บ้านป่าแดงนางเหลียว         จึงเห็นว่าบริเวณดังกล่าวเหมาะแก่การตั้งถิ่นฐาน ซึ่งปัจจุบันบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของสถานีอนามัยตำบลชมภู           จากการเดินทางมาในครั้งนี้ของพ่อพญาชมภู ได้มีทหารเอกจำนวน 3 คน คือ ขุนแสนสุพรรณช่าง ท้าวดวงจันทร์(นักบวช) และเจ้าพ่อข้อมือเหล็ก (นักรบ) และต่อมาท่านได้ปฏิสังขรณ์วัดป่าไม้แดงนางเหลียวและตั้งชื่อว่าวัดพญาชมภู ปัจจุบันหลักฐานการบูรณสังขรณ์และสิ่งปลูกสร้างยังมีปรากฏให้เห็น และในปี พ.ศ.2539 ทางหมู่บ้านได้สร้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาชมภู เพื่อเป็นที่สักการบูชาพร้อมทั้งประกอบพิธีบวงสรวงในวันที่ 31 พฤษภาคม 2541

ข้อมูลทั่วไป

อาณาเขตติดต่อ

ทิศเหนือ           ติดต่อกับ      หมู่ที่ 1     บ้านหนองป่าแสะ            ตำบลชมภู  อำเภอสารภี

ทิศใต้               ติดต่อกับ      หมู่ที่ 8     บ้านศรีดอนมูล      ตำบลชมภู  อำเภอสารภี

ทิศตะวันออก     ติดต่อกับ      หมู่ที่ 4     บ้านท่าต้นกวาว     ตำบลชมภู  อำเภอสารภี

ทิศตะวันตก       ติดต่อกับ      หมู่ที่ 1     บ้านหนองป่าแสะ   ตำบลชมภู  อำเภอสารภี

ที่ตั้งหมู่บ้าน

-  อยู่ห่างจากเทศบาลตำบลชมภู ประมาณ 1 กิโลเมตร

-  อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 3 กิโลเมตร

-  พื้นที่ทั้งหมดของหมู่บ้านประมาณ 1,200 ไร่ พื้นที่ทางการเกษตร 750 ไร่

ข้อมูลประชากร

-  จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 531 ครัวเรือน

-  จำนวนประชากรแยก เป็นชาย จำนวน 597 คน หญิง จำนวน 615 คน รวม 1,248 คน

หมู่ที่ 3 บ้านสุพรรณ

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน

          สันนิษฐานว่าคนกลุ่มแรกที่อพยพตั้งถิ่นฐานและก่อตั้งหมู่บ้าน เมื่อ พ.ศ.2342 พื้นที่หมู่บ้านเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในอดีตบริเวณที่ก่อตั้งหมู่บ้านเป็นป่าทึบ มีต้นกล้วยจำนวนมาก ในตอนแรกมีราษฎรมาอาศัยอยู่ไม่มากนัก ต่อมา           มีชาวไทยใหญ่ ชื่อนายจองมุ้ง กาล๋อ ซึ่งอพยพมาจากแคว้นสิบสองปันนา ประเทศพม่า มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่ และได้แต่งงานกับนางปุ๊ม นายจองมุ้งและนางปุ๊ม ได้ร่วมมือกับชาวบ่นก่อสร้างวัดขึ้นพร้อมกับตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านป่ากล้วย เพราะมาจากต้นกล้วยที่มีจำนวนมาก และได้เปลี่ยนชื่อเป็น บ้านสุพรรณ จนถึงทุกวันนี้

ข้อมูลทั่วไป

อาณาเขตติดต่อ

ทิศเหนือ          ติดต่อกับ     หมู่ที่ 6     บ้านเทพาราม       ตำบลป่าบง  อำเภอสารภี

ทิศใต้              ติดต่อกับ     หมู่ที่ 2     บ้านพญาชมภู       ตำบลชมภู   อำเภอสารภี

ทิศตะวันออก    ติดต่อกับ     หมู่ที่ 4     บ้านท่าต้นกวาว     ตำบลชมภู   อำเภอสารภี

ทิศตะวันตก      ติดต่อกับ     หมู่ที่ 1     บ้านหนองป่าแสะ   ตำบลชมภู   อำเภอสารภี

ที่ตั้งหมู่บ้าน

-  อยู่ห่างจากเทศบาลตำบลชมภู ประมาณ 3 กิโลเมตร

-  อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 3 กิโลเมตร

-  พื้นที่ทั้งหมดของหมู่บ้านประมาณ 341 ไร่ พื้นที่ทางการเกษตร 157 ไร่

ข้อมูลประชากร

-  จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 265 ครัวเรือน

-  จำนวนประชากรแยก เป็นชาย จำนวน 286 คน หญิง จำนวน 313 คน รวม 599 คน

หมู่ที่ 4 บ้านท่าต้นกวาว

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน

          บ้านท่าต้นกวาว หมู่ที่ 4 มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว โดยมีลำน้ำกวงไหลผ่านกลาง จากคำบอกเล่าว่า พระพุทธเจ้าเดินทางมาจากอำเภอสันกำแพง แล้วไปนั่งใต้ต้นไม้ใกล้ฝั่งแม่น้ำกวง มีชาวนาเห็นเข้าเลยนำไม้ไผ่มาทำแคร่ให้พระพุทธเจ้านั่งใต้ต้นกว๋าว จากนั้นพระพุทธเจ้าจึงบอกแก่ขาวบ้านนั้นว่า ให้สร้างวัดริมฝั่งแม่น้ำกวงนี้ ชาวนาจึงระดมชาวบ้านชาวบ้านมาสร้างวัดขึ้น และให้ชื่อว่า วัดท่าต้นกว๋าว ตามชื่อที่พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตั้งให้ ต่อมาชาวยองได้อพยพมาจากเวียงยอง ลำพูน ก็มาตั้งบ้านเรือนอยู่ตรงกันข้ามฝั่งของแม่น้ำกวง แต่ก็ไปมาหาสู่กัน โดยมีวัดท่าต้นกว๋าวเป็นศูนย์กลางของการจัดประเพณีต่างๆ ขึ้น จวบจนปัจจุบัน ซึ่งพิธีกรรมที่เกิดขึ้นหลายอย่าง เป็นรูปแบบของชาวบ้าน      ชาวยองเป็นส่วนใหญ่

ข้อมูลทั่วไป

อาณาเขตติดต่อ

ทิศเหนือ          ติดต่อกับ     หมู่ที่ 3     บ้านสุพรรณ     ตำบลป่าบง   อำเภอสารภี

ทิศใต้             ติดต่อกับ     หมู่ที่ 5     บ้านทุ่งขี้เสือ     ตำบลชมภู    อำเภอสารภี

ทิศตะวันออก     ติดต่อกับ     ตำบลบวกค้าง และตำบลสันกำแพง

ทิศตะวันตก      ติดต่อกับ     หมู่ที่ 2     บ้านพญาชมภู   ตำบลชมภู   อำเภอสารภี

ที่ตั้งหมู่บ้าน

-  อยู่ห่างจากเทศบาลตำบลชมภู ประมาณ 2 กิโลเมตร

-  อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 4 กิโลเมตร

-  พื้นที่ทั้งหมดของหมู่บ้านประมาณ 800 ไร่ พื้นที่ทางการเกษตร 300 ไร่

ข้อมูลประชากร

-  จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 644 ครัวเรือน

-  จำนวนประชากรแยก เป็นชาย จำนวน 690 คน หญิง จำนวน 787 คน รวม 1,477 คน

หมู่ที่ 5 บ้านทุ่งขี้เสือ

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน

          บ้านทุ่งขี้เสือ (ริมกวง) หมู่ที่ 5 ซึ่งแยกมาจากบ้านท่าต้นกวาว ตำบลชมภู ตามคำบอกเล่า เล่าว่า บริเวณนี้แต่เดิมทีแห้งแล้ง เป็นป่าชุกชุม และมีโจรผู้ร้ายมักจะใช้บริเวณนี้เป็นแหล่งหลบซ่อนตัวและสิ่งของที่ได้จากการโจรกรรม ชาวบ้านจะไม่เข้าไปใกล้บริเวณนี้ และเรียกบริเวณนี้ว่า ทุ่งขี้เสือ ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงเสือร้ายที่มาชุมนุมกันอยู่นั่นเอง  มาภายหลังโจรผู้ร้ายหายไป ชาวบ้านได้อพยพเข้ามาอยู่ และเรียกบริเวณนั้นว่าทุ่งขี้เสือในที่สุด ทุ่งขี้เสือได้แยกตัวออกมาเป็นหมู่บ้านหนึ่งของตำบลชมภู โดยการแยกตัวมากจากบ้านท่าต้นกวาว เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2468

ข้อมูลทั่วไป

อาณาเขตติดต่อ

ทิศเหนือ          ติดต่อกับ      หมู่ที่ 4 บ้านสุพรรณ   ตำบลป่าบง   อำเภอสารภี

ทิศใต้             ติดต่อกับ      หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 9    ตำบลชมภู    อำเภอสารภี

ทิศตะวันออก     ติดต่อกับ      แม่น้ำกวง

ทิศตะวันตก      ติดต่อกับ      หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 2    ตำบลชมภู    อำเภอสารภี

ที่ตั้งหมู่บ้าน

-  อยู่ห่างจากเทศบาลตำบลชมภู ประมาณ 4 กิโลเมตร

-  อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 6 กิโลเมตร

-  พื้นที่ทั้งหมดของหมู่บ้านประมาณ 750 ไร่ พื้นที่ทางการเกษตร 340 ไร่

ข้อมูลประชากร

-  จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 236 ครัวเรือน

-  จำนวนประชากรแยก เป็นชาย จำนวน 294 คน หญิง จำนวน 321 คน รวม 615 คน

หมู่ที่ 6 บ้านบุปผาราม

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน

          บ้านบุปผาราม หมู่ที่ 6 เดิมชื่อว่า บ้านศรีก้อนหน้อย สร้างเมื่อปี พ.ศ.2448 มีพื้นที่ ประมาณ 500 กว่าไร่        มีรูปลักษณ์ยาวเรียงรายตามหัวทุ่งนาตามลำน้ำล้องปู่เอิบ ประวัติตามเป็นมาจากคำบอกเล่าว่า เดิมเรียกว่า              บ้านศรีก้อนหน้อย เพราะหนานศรีก้อนหน้อยเป็นผู้บริจาคทรัพย์และที่ดินให้สร้างวัดขึ้นในหมู่บ้าน ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณ ปี พ.ศ.2548 ต่อมา พระครูผัด สุกินะ ได้สร้างและบูรณะวิหาร เจดีย์ที่ชำรุด และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดบุปผาราม แปลว่า ป่าดอกไม้ ชาวบ้านจึงเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านตามชื่อของวัด

ข้อมูลทั่วไป

อาณาเขตติดต่อ

ทิศเหนือ            ติดต่อกับ     หมู่ที่ 8  และหมู่ที่ 2   ตำบลป่าบง   อำเภอสารภี

ทิศใต้               ติดต่อกับ     หมู่ที่ 9  ตำบลชมภู    อำเภอสารภี

ทิศตะวันออก     ติดต่อกับ     หมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 5   อำเภอสารภี

ทิศตะวันตก       ติดต่อกับ     หมู่ที่ 8 ตำบลชมภู     อำเภอสารภี

ที่ตั้งหมู่บ้าน

-  อยู่ห่างจากเทศบาลตำบลชมภู ประมาณ 1 กิโลเมตร

-  อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 4 กิโลเมตร

-  พื้นที่ทั้งหมดของหมู่บ้านประมาณ 1,400 ไร่ พื้นที่ทางการเกษตร 600 ไร่

ข้อมูลประชากร

-  จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 368 ครัวเรือน

-  จำนวนประชากรแยก เป็นชาย จำนวน 451 คน หญิง จำนวน 454 คน รวม 905 คน

หมู่ที่ 7 บ้านแม่สะลาบ

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน

          บ้านแม่สะลาบ หมู่ที่ 7 มีพื้นที่ประมาณ 1,400 ไร่ 1 งาน 50 ตารางวา ลักษณะการตั้งหมู่บ้านจะยาวไปตามลำน้ำ รูปลักษณะของหมู่บ้านเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีตำนานเล่าว่า มีหญิงหม้ายนางหนึ่ง ชื่อ นางชะลาบ (ในสมัยนั้น) อาศัยอยู่กับลูกชาย-หญิงริมฝั่งน้ำ นางเป็นคนมีจิตใจเอื้อเฟื้อ เสียสละซึ่งเมื่อมีการขอความร่วมมือในการพัฒนาชุมชน แม่นางก็จะไปช่วยงานทุกครั้ง วันหนึ่งมีการระดมผู้คนเพื่อพัฒนาลำน้ำ โดยมีเจ้าเมืองฝ่ายในที่จะเตรียมลำน้ำในการให้ขบวนเสด็จผ่านทางหมู่บ้าน จึงมีผู้คนที่ทราบข่าวต่างก็ตั้งใจออกมาช่วยกัน และตั้งใจจะถวายความจงรักภัคดีอย่างเต็มที่ด้วยการพัฒนาร่วมกับทหารที่มาช่วยกัน เพื่อเตรียมการก่อนวันเสด็จจริง 1 เดือน แม่นางก็มาร่วมด้วยช่วยกันแต่เป็นฝ่ายบริการน้ำดื่มให้กับผู้ใหญ่ที่มาคอบควบคุมการทำงานของทหาร และเกิดไปสะดุดตากับเจ้าเมืองฝ่ายใน มีการรักใคร่ชอบพอกับแม่นาง จนเกิดเป็นความรักในที่สุด และก่อนที่วันที่เจ้าเมืองจะเสด็จ 1 อาทิตย์ ก็มีการพัฒนาครั้งสุดท้าย เพื่อให้ดูสะอาดเรียบร้อย มีการป่าวประกาศให้ประชาชนที่อยู่ใกล้ลำน้ำมาร่วมกันพัฒนาอีกครั้ง แม่นางก็มาร่วมพัฒนาเหมือนเช่นเคย แต่ครั้งนี้แม่นางโชคไม่ดี ถูกงูรัดตาย ยังความเศร้าโศกเสียใจให้กับเจ้าเมืองฝ่ายในเป็นอย่างมาก ก็เลยร่วมกับประชาชนในพื้นที่ตั้งชื่อลำน้ำแห่งนี้ตามนามเรียกขานของแม่นางว่า ลำน้ำแม่ชะลาบ ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา นอกจากนี้ตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน จากรุ่นสู่รุ่นเล่าขานกันต่อมาว่าในการตั้งชื่อหมู่บ้าน เมื่อประมาณปี พ.ศ.2389 เจ้าเมืองฝ่ายใน (ไม่ปรากฏนาม) ได้ออกคำสั่งให้พระยาคำมาจัดตั้งหมู่บ้าน โดยผู้นำคนจากในเมืองโดยสารมาทางเรือ และเรือมาเกยตื้น จึงลากเรือเข้ามาในลำน้ำสายเล็กๆ ซึ่งเป็นทางเข้าหมู่บ้าน และสองฝั่งน้ำเต็มไปด้วยต้น สะลาบ ก็เลยตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านแม่สะลาบ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ข้อมูลทั่วไป

อาณาเขตติดต่อ

ทิศเหนือ          ติดต่อกับ      หมู่ที่ 8   บ้านศรีดอนมูล     ตำบลชมภู   อำเภอสารภี

ทิศใต้              ติดต่อกับ      หมู่ที่ 9   บ้านร่มป่าตอง      ตำบลชมภู   อำเภอสารภี

ทิศตะวันออก    ติดต่อกับ      หมู่ที่ 6   บ้านบุปผาราม      ตำบลชมภู   อำเภอสารภี

ทิศตะวันตก      ติดต่อกับ      หมู่ที่ 8   บ้านต้นผึ้ง - สันกับตอง  ตำบลสารภี   อำเภอสารภี

ที่ตั้งหมู่บ้าน

-  อยู่ห่างจากเทศบาลตำบลชมภู ประมาณ 1 กิโลเมตร

-  อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 4 กิโลเมตร

-  พื้นที่ทั้งหมดของหมู่บ้านประมาณ 1,400 ไร่ พื้นที่ทางการเกษตร 800 ไร่

ข้อมูลประชากร

-  จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 505 ครัวเรือน

-  จำนวนประชากรแยก เป็นชาย จำนวน 583 คน หญิง จำนวน 626 คน รวม 1,209 คน

หมู่ที่ 8 บ้านศรีดอนมูล

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน

          บ้านศรีดอนมูล หมู่ที่ 8 ตั้งเมื่อปี 2535 โดยท้าววิชัย ซึ่งเป้นทหารเอกทหารของพญาชมภู เดิมชื่อ บ้านพระเจ้าก้นกึ่ง มีพื้นที่ 14 ไร่ 2 งาน มีรูปลักษณ์สี่เหลี่ยมคางหมู ไม่ปรากฏหลักฐานการตั้งบ้าน สันนิษฐานว่ามีตั้งแต่สมัยพระเจ้าติโลกราช จากคำบอกเล่าได้เล่าถึงบริเวณนี้ว่า เดิมชาวเชียงแสนอพยพมาหักร้างถางพง และสร้างวัดพร้อมสร้างพระพุทธรูปมากมาย ต่อมาเกิดสงคราม ชาวบ้านได้หนีกระจัดกระจาย ทำให้สภาพบ้านเมืองวัดวาอารามร้างไป ต่อมาพญาชมภูได้พาชาวเชียงแสนอพยพจากบ้านยางเนิ้งมาหักร้างถางพงสร้างบ้านเรือนขึ้น พบวัดร้าง 2 วัดและพระพุทธรูปล้มระเนระนาด พระประธานของวัดถูกงัดพระพักตร์คว่ำลง ขาวบ้านใกล้เคียงได้กล่าวว่า เป็นเพราะช้างป่าเข้ามาหากินและงัดพระพุทธรูป ทำให้ฐานยกขึ้น จึงเรียกว่าพระเจ้าก้นกึ่ง อีกวัดหนึ่งอยู่ทางทิศเหนือ พญาชมภูจึงทำการบูรณะเรียกว่า วัดพญาชมภู ส่วนชาวบ้านได้ทำการบูรณะวัดทางทิศใต้อันเป็นที่ตั้งของวัดพระเจ้าก้นกึ่ง และพบว่าบริเวณใกล้เคียงเป็นที่ดอนและอุดมสมบูรณ์ จึงพากันช่วยยกพระประธาน ที่ล้มคว่ำหน้าอยู่ ให้ตั้งฐานใหม่ แล้วจึงเปลี่ยนชื่อวัดพระเจ้าก้นกึ่ง เป็น วัดศรีดอนมูล หมู่บ้านนี้จึงได้ชื่อว่า บ้านศรีดอนมูล ตามชื่อวัด

ข้อมูลทั่วไป

อาณาเขตติดต่อ

ทิศเหนือ          ติดต่อกับ     หมู่ที่ 2     บ้านพญาชมภู    ตำบลชมภู   อำเภอสารภี

ทิศใต้              ติดต่อกับ     หมู่ที่ 7     บ้านศรีดอนมูล   ตำบลชมภู   อำเภอสารภี

ทิศตะวันออก    ติดต่อกับ     หมู่ที่ 6     บ้านบุปผาราม    ตำบลชมภู   อำเภอสารภี

ทิศตะวันตก      ติดต่อกับ     หมู่บ้านต้นหาด   ตำบลยางเนิ้ง   อำเภอสารภี

ที่ตั้งหมู่บ้าน

-  อยู่ห่างจากเทศบาลตำบลชมภู ประมาณ 500 เมตร

-  อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 3 กิโลเมตร

-  พื้นที่ทั้งหมดของหมู่บ้านประมาณ 1,400 ไร่ พื้นที่ทางการเกษตร 800 ไร่

ข้อมูลประชากร

-  จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 271 ครัวเรือน

-  จำนวนประชากรแยก เป็นชาย จำนวน 317 คน หญิง จำนวน 354 คน รวม 671 คน

หมู่ที่ 9 บ้านร่มป่าตอง

ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน  

          บ้านร่มป่าตอง หมู่ที่ 9 เดิมชื่อว่า บ้านโล๊ะป่าตอง มีพื้นที่ประมาณ 1,200 ไร่ มีรูปร่างเป็นวงแหวน จากคำบอกเล่าๆ ว่า แต่เดิมเป็นป่ารก มีชาวบ้านอพยพมาอยู่เพียง 10-12 ครอบครัวได้ ช่วยกันหักร้างถางพง บริเวณที่เป็นป่ารก ซึ่งบริเวณนั้นจะเป็นทางน้ำขังและมีหล่มโคลนตม ตั้งเป็นหมู่บ้านขึ้นประกอบอาชีพหล่อตอง (หล่อตอง หมายถึง การหล่อพระพุทธรูปด้วยทองสัมฤทธิ์) จึงได้ชื่อว่าหมู่บ้าน โล๊ะป่าตอง ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นร่มป่าตอง เพื่อให้เป็น           ศิริมงคลความสุขสวัสดิ์แก่ชีวิต และเป็นหมู่บ้านที่ 100 ของอำเภอสารภี โดยได้แยกจากหมู่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านแม่สะลาบ เมื่อปี พ.ศ.2517 ปัจจุบันมี นายดาวชัย สุกันทา เป็นผู้ใหญ่บ้าน

ข้อมูลทั่วไป

อาณาเขตติดต่อ

ทิศเหนือ          ติดต่อกับ      หมู่ที่ 6   บ้านบุปผาราม    ตำบลชมภู

ทิศใต้             ติดต่อกับ      หมู่ที่ 10 บ้านศรีดอนชัย   ตำบลบ้านธิ   อำเภอเมืองลำพูน   จังหวัดลำพูน

ทิศตะวันออก     ติดต่อกับ      หมู่ที่ 6   บ้านบุปผาราม   ตำบลชมภู     อำเภอสารภี

ทิศตะวันตก      ติดต่อกับ      หมู่ที่ 7   บ้านช่างเพี้ยน    ตำบลบ้านธิ   อำเภอบ้านธิ   จังหวัดลำพูน

ที่ตั้งหมู่บ้าน

-  อยู่ห่างจากเทศบาลตำบลชมภู ประมาณ 6 กิโลเมตร

-  อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 4 กิโลเมตร

-  พื้นที่ทั้งหมดของหมู่บ้านประมาณ 700 ไร่ พื้นที่ทางการเกษตร 500 ไร่

ข้อมูลประชากร

-  จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 231 ครัวเรือน

-  จำนวนประชากรแยก เป็นชาย จำนวน 220 คน หญิง จำนวน 252 คน รวม 472 คน

1.2  เนื้อที่     เทศบาลตำบลชมภู มีเนื้อที่ประมาณ 13.741 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 9,676 ไร่

1.3  อาณาเขตติดต่อ

          ทิศเหนือ           ติดต่อกับ         ตำบลป่าบง, ตำบลไชยสถาน

          ทิศใต้               ติดต่อกับ         ตำบลสารภี

          ทิศตะวันออก     ติดต่อกับ         ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง, อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน

          ทิศตะวันตก       ติดต่อกับ         ตำบลยางเนิ้ง

1.4 จำนวนประชากร (ที่มา: ฝ่ายทะเบียนและบัตร/ด้านทะเบียนเทศบาลตำบลชมภู ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2567)

 

หมู่ที่

ชื่อหมู่บ้าน

จำนวนครัวเรือน

จำนวนประชากร

รวม

ชาย

หญิง

1

บ้านหนองป่าแสะ

373

336

350

686

2

บ้านพญาชมภู

531

597

651

1,248

3

บ้านสุพรรณ

265

286

313

599

4

บ้านท่าต้นกวาว

644

690

787

1,477

5

บ้านทุ่งขี้เสือ

236

294

321

615

6

บ้านบุปผาราม

368

451

454

905

7

บ้านสะลาบ

505

583

626

1,209

8

บ้านศรีดอนมูล/ชุมชนพิเศษบ้านต้นหาด

271

317

354

671

9

บ้านร่มป่าตอง

231

220

252

472

รวม

3,425

3,774

4,108

7,882

 

1.5  จำนวนหมู่บ้าน

          จำนวนหมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลชมภู มีทั้งหมด  9  หมู่บ้าน ดังนี้

          หมู่ที่ 1  บ้านหนองป่าแสะ         ผู้ใหญ่บ้าน        ชื่อ      นายดวงคำ จันทร์ตา

          หมู่ที่ 2  บ้านพญาชมภู             ผู้ใหญ่บ้าน        ชื่อ      นายวิเชียร กองปุ๊ด

          หมู่ที่ 3  บ้านสุพรรณ               ผู้ใหญ่บ้าน        ชื่อ      นายณัฐพงษ์  สายบุญ

          หมู่ที่ 4  บ้านท่าต้นกวาว           ผู้ใหญ่บ้าน        ชื่อ      นายศรีทน  แสงบุญ

          หมู่ที่ 5  บ้านทุ่งขี้เสือ               ผู้ใหญ่บ้าน        ชื่อ      นายยุทธนา  กันทะตุ่น

          หมู่ที่ 6  บ้านบุปผาราม            ผู้ใหญ่บ้าน        ชื่อ      นายสุรพันธ์  ขันทะราช

          หมู่ที่ 7  บ้านแม่สะลาบ            ผู้ใหญ่บ้าน        ชื่อ      นายนรินทร์  วงค์กัณฑรักษ์

          หมู่ที่ 8  บ้านศรีดอนมูล            กำนัน             ชื่อ      นายสุรศักดิ์  สมบัติ

          หมู่ที่ 9  บ้านร่มป่าตอง             ผู้ใหญ่บ้าน        ชื่อ      นายดาวชัย  สุกันทา

1.6 ลักษณะภูมิประเทศ

          เทศบาลตำบลชมภูมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม ไม่มีป่าไม้และภูเขา สภาพดินทั่วไปเป็นดินร่วนปนทราย เหมาะสำหรับทำการเกษตร

1.7 สภาพอากาศ

          มีสภาพอากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดทั้งปี  มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี  25.4  องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 31.8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20.1 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดปี 72%  สภาพภูมิอากาศอยู่ภายใต้อิทธิพลมรสุม 2 ชนิด คือลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ        แบ่งภูมิอากาศออกได้เป็น 3 ฤดู ได้แก่

          ฤดูร้อน  เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมฝ่ายใต้

          ฤดูฝน   เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนตุลาคม โดยได้รับอิทธิพลจาก ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

          ฤดูหนาว   เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยได้รับอิทธิพลจาก ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพาเอาความหนาวเย็นจากประเทศจีนลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบน

  1. สภาพทางเศรษฐกิจ

2.1 อาชีพ     

      จากการสำรวจข้อมูลพื้นฐานพบว่า  ประชากรในตำบลชมภู ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ค้าขาย ธุรกิจส่วนตัว  พนักงานบริษัท พนักงานรัฐวิสาหกิจ รับราชการ เกษตรกรรม และอาชีพอื่นๆ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ ร้อยละ 80  ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป บางส่วนไปรับจ้างทำงานนอกพื้นที่ รวมทั้งแรงงานที่ไปทำงานต่างประเทศ ปัญหาที่พบคือ ประชากรต้องไปทำงานนอกพื้นที่ในเมืองที่มีโรงงานอุตสาหกรรม บริษัท ห้างร้านใหญ่ๆ เพราะในพื้นที่ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการจ้างแรงงานเยอะ เพราะพื้นที่ส่วนมากเป็นที่อยู่อาศัย ปัญหานี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้

      อุตสาหกรรม     โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่/กลาง/เล็ก จำนวน 8 แห่ง

      การพาณิชย์และกลุ่มอาชีพ

          - กลุ่มออมทรัพย์                              9        กลุ่ม

- กองหนุนเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ              1        รุ่น

- กลุ่มแปรรูปผลผลิต                                  3        กลุ่ม

- กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง                 9        กลุ่ม

- กองทุนแม่ของแผ่นดิน                            9        กลุ่ม

- กองทุนสวัสดิการชุมชน                           1        กลุ่ม    

พื้นที่ทำการเกษตร  4,609 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 100 ของพื้นที่ทั้งหมดของตำบลชมภู  โดยแบ่งออกเป็น

พื้นที่ทำนา     1,380   ไร่          คิดเป็นร้อยละ    29.94

พื้นที่ทำสวน   3,216   ไร่          คิดเป็นร้อยละ    69.78

พื้นที่อื่น ๆ (พืชผัก) 13  ไร่         คิดเป็นร้อยละ    0.28

การปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่

ที่มา : สำนักงานเกษตรอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ณ เดือนเมษายน 2562

ที่

ชนิดพืช

พื้นที่ปลูก (ไร่)

ผลผลิตเฉลี่ย

(กก./ไร่)

ผลผลิตรวม (ตัน)

จำนวนเกษตรกร

ที่ขึ้นทะเบียน

(ราย/ครัวเรือน)

1.

2.

3.

4.

5.

6.

7.

8.

9.

10.

ข้าวนาปี

ข้าวนาปรัง

ข้าวไร่

ลำไย

กล้วย

พริกขี้หนู

ถั่วฝักยาว

กวางตุ้ง

ผักอื่นๆ

ไม้ผลอื่นๆ

943

366

-

3,142

20

62

30

35

28

20

600

500

-

800

800

1,200

800

1,000

1,000

800

4

1.75

-

2.4

1.6

7.4

2.4

3.5

2.8

1.6

96

36

-

602

35

20

25

30

27

44

 

การบริการ      

- ร้านขายของชำ                       43      แห่ง               - ร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า            1        แห่ง

- ร้านตัดผม                              5        แห่ง               - โรงน้ำดื่ม                                 1        แห่ง

- ร้านอาหาร                             20      แห่ง               - โรงงานชำแหละสุกร                  1        แห่ง

- ปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญ            10      แห่ง               - โรงงานเย็บผ้า                           5        แห่ง

- อู่ซ่อมรถ                               5        แห่ง               - ร้าน


Tags: